บ้านขุนกำลัง หมู่ที่ ๔

User Rating:  / 1
PoorBest 

ขนกำลง

บ้านขุนกำลัง

       เดิมทีก่อนที่จะมาเป็นหมู่บ้านขุนกำลัง หมู่ที่ 4 ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา นั้น ชาวบ้านได้อาศัยอยู่ที่บ้านฉลองกรุง อำเภอเชียงคำ บ้านขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน และสถานที่อื่น เช่น จากจังหวัดเชียงใหม่ ชาวบ้านกลุ่มนี้ได้อพยพ มาจากหลากหลายพื้นที่หลากหลายแห่งมาอยู่รวมกัน จึงได้ก่อตั้งหมู่บ้านขึ้นมา เมื่อปี พ.ศ. 2527 ชาวบ้านที่อพยพเข้ามาเป็นชาวเขาเผ่าม้ง และในอดีต ชาวเขาเผ่าม้งมีการอพยพย้ายถิ่นฐานบ่อยครั้ง จนทำให้บางครอบครัวมีสมาชิกแยกกันอยู่คนละทิศละทาง แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีการติดต่อกันสื่อสารกันเยี่ยมเยือนกันอยู่เสมอ เดิมนั้นในอดีตมีการก่อการร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์ (พ.ค.ท) พากันหลบภัยและได้มาซ่อนตัวอยู่เขต ดอยผาจิ และ ผาช้างน้อย ซึ่งมีทั้งนักการเมือง นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ (พ.ค.ท) ซึ่งรวมไปถึง นายยืนยัง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว)
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ซึ่งในขณะนั้นยังมีการปลุกระดมชักชวนชนเผ่าม้งบ้านขุนกำลังเข้าร่วมกับพวกคอมมิวนิสต์ด้วย (พ.ก.ค.) ทางด้านรัฐบาล โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้อพยพชนเผ่าม้งจากพื้นที่บ้านปิน และ บ้านถ้ำ เข้ามาในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นกันชน และ เพื่อการข่าวและความเคลื่อนไหวของฝ่ายคอมมิวนิสต์ นำโดย นายจงตั๋ว
แซ่โซ้ง พร้อมลูกน้องอีกประมาณ 4 – 5 คน ทำหน้าที่เข้าไปเป็นฝ่ายข่าวให้กับรัฐบาล และพยายามชักจูงให้ชาวบ้านขุนกำลังเข้ามาเป็นแนวร่วมให้กับรัฐบาล จนถูกพรรคคอมมิวนิสต์จับได้และถูกฆ่าตาย เพราะถูกเข้าใจว่าเป็นสายสืบให้รัฐบาล หลังจากที่สงครามการเมืองได้สิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้มีประกาศนโยบายร่วมพัฒนาชาติไทย เปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามอบตัวและวางอาวุธ เพื่อมาเข้าร่วมแนวทางเสรีนิยม รัฐบาลต้องการให้ชาวเขาเผ่าม้งที่ได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ กลับเข้ามาเป็นผู้เข้าร่วมพัฒนา ชาติไทย และชนเผ่าม้งได้มีการรวมตัวกันได้อีกครั้งหนึ่ง และ ดำเนินชีวิตตามวิถีของชนเผ่าม้งตามปกติอย่างสงบเรื่อยมา จนถึงปัจจุบันได้มีการก่อตั้งเป็นหมู่บ้านขุนกำลัง ประมาณปี พ.ศ. 2527 โดยมีผู้นำหมู่บ้านของบ้านฉลองกรุงเป็นผู้นำ คือ นายเลาวาง แซ่ว่าง

       กองทัพภาคที่ 3 ได้อพยพชาวบ้านฉลองกรุงมาตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ ชื่อว่า
บ้านขุนกำลัง โดยมีนายสมชาย วิริยะส่องแสง เป็นผู้นำหมู่บ้านและกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดสรรพื้นที่ทางการเกษตรให้ชาวบ้านครอบครัวละ 30 ไร่ ซึ่งหมู่บ้านที่ตั้งขึ้นใหม่นี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านเดิม 20 กิโลเมตร และได้มีการก่อสร้างวัดขึ้นมา แต่เนื่องจากชาวบ้านมีประเพณีการนับถือผี จึงไม่มีใครให้ความสำคัญและสนับสนุนในการสร้างวัด ประกอบกับไม่มีพระสงฆ์มาจำพรรษาที่วัด จนในที่สุดก็ชำรุดทรุดโทรม และพังไปในที่สุด

 ผู้ใหญ่บ้าน

     นายเลาโต้ง แซ่ว่าง

จำนวนประชากร      ชาย 877 คน  หญิง  830  รวม  1,707   จำนวนครัวเรือน 278 หลังคาเรือน

อาณาเขตติดต่อ

       ทิศเหนือ             ติดกับบ้านนาอ้อม ตำบลขุนควร อำเภอปง

       ทิศใต้               ติดกับบ้านท่าฟ้าใต้ อำเภอเชียงม่วน

       ทิศตะวันออก        ติดกับบ้านสันติสุข ตำบลขุนควร อำเภอปง

       ทิศตะวันตก          ติดกับบ้านผาตั้ง ตำบลขุนควร อำเภอปง

ด้านการประกอบอาชีพ

ประกอบอาชีพการเกษตร ทำไร่ทำสวน เป็นส่วนใหญ่

ด้านศาสนา วัฒนธรรม และประเพณี

นับถือผี และ บางส่วนนับถือศาสนาคริสต์

ด้านการศึกษา

การศึกษาในระดับก่อนวัยเรียนเข้าเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านขุนกำลัง ระดับประถมศึกษา ส่วนใหญ่เข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านขุนกำลัง ในระดับมัธยมศึกษาเข้าเรียนที่โรงเรียนขุนควรวิทยาคม และสถานศึกษาใกล้เคียง ตามกำลังความสามารถของเด็กและผู้ปกครอง

ด้านการท่องเที่ยว

เทศกาลปีใหม่ม้ง จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แล้วแต่ว่าปีนั้น หมู่บ้านใดจะได้เป็นผู้จัดงาน สลับกันไปทุกปี โดยมีการสลับกันระหว่าง 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านขุนกำลัง หมู่ที่ 4 บ้านแสงไทร หมู่ที่ 9 และ บ้านสันติสุข หมู่ที่ 7

footer5